"หุ้น 10 เด้ง" ของ...ปีเตอร์ ลินช์
"หุ้น 10 เด้ง" ของ...ปีเตอร์ ลินช์
โดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
Bangkokbiznews.com
ในหนังสือ “30 วัน รวยด้วยรายได้ที่ไม่ต้องทำงาน” มีบทความหนึ่งที่ผมชอบมากก็คือ “หุ้น 10 เด้ง ของ ปีเตอร์ ลินช"
โดยลินช์เป็นผู้ที่บริหารกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดกองหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า ไฟเดลลิตี้ แมกเจลลัน (Fidelity Magellan) ตั้งแต่ปี 2520 จากนั้นลินช์ก็ได้สร้างความฮือฮาให้เกิดขึ้นในวงการตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา ด้วยการทำให้ผลตอบแทนของกองทุนของเขาออกมาสูงถึง 28 เท่า ภายในระยะเวลา 13 ปี พูดง่ายๆ ก็คือ หากคุณผู้อ่านลงทุนกับนายลินช์ในปี 2520 เป็นเงิน 1 ล้านบาท พอถึงปี 2533 คุณผู้อ่านก็จะได้เงินสูงถึง 28 ล้านบาทโดยลินช์มีเทคนิคในการมองหา “หุ้นสิบเด้ง” ดังนี้ครับ
ชื่อบริษัทฟังแล้ว...น่าเบื่อหน่าย บริษัทที่มีชื่อว่า Crown, Cork and Seal ซึ่งมีความหมายถึง จุกขวด หรือการผนึกฝาต่างๆ เป็นชื่อที่ธรรมดาๆ และน่าเบื่อหน่าย แต่ลินช์จะมองว่า...เป็นข้อดี เพราะผู้คนมักจะไม่สนใจในสิ่งที่...น่าเบื่อหน่าย
ผลิตสินค้าที่...น่าเบื่อหน่าย - บริษัทที่ผลิตสินค้า...ที่น่าเบื่อหน่าย ก็จะสามารถกันคนที่ไม่เฉลียวฉลาดออกไปได้ แต่ลินช์จะชอบมากที่สุดถ้าค้นพบ...บริษัทที่มีชื่อน่าเบื่อหน่าย และยังจะผลิตสินค้าที่น่าเบื่อหน่ายออกมาอีกด้วย
เป็นหุ้นของบริษัทที่ทำอะไรให้คนไม่ชอบ - บริษัทที่คนมักจะไม่ชอบได้แก่ บริษัทที่ทำอะไรเกี่ยวกับความสกปรกหรือขยะ เป็นต้น แค่เริ่มต้นทำในสิ่งที่คนไม่ชอบ...คนที่จะสนใจก็น้อยลงไปแล้ว
เป็นหุ้นของบริษัทที่แตกตัวออกมา - การแตกบริษัทย่อยออกมาจากบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงแสดงว่า ผู้บริหารของบริษัทนั้นๆ จะต้องเห็นความสามารถและมีความมั่นใจในบริษัทลูก นอกจากนั้นชื่อเสียงของบริษัทแม่ยังช่วยให้บริษัทลูกมีโอกาสประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นอีกด้วย
เป็นหุ้นที่สถาบันลงทุนไม่ชอบที่จะลงทุนด้วย - หากคุณผู้อ่านค้นพบหุ้นที่ดีตัวใดก็ตามที่สถาบันลงทุนถือไว้น้อยหรือไม่ได้ถือไว้เลย นั่นอาจแสดงว่า...โอกาสกำลังมาแล้ว เพราะคุณสามารถจะซื้อเก็บสะสมมันไว้ได้ก่อนที่...ยักษ์ใหญ่จะลงมาเล่น
เป็นหุ้นที่รู้สึกว่ามีปัญหาบางอย่าง...กำลังคุกคามอยู่ - ปัญหาทางสังคมหลายๆ อย่างก็เคยกระหน่ำไปยังบริษัทดีๆ หลายต่อหลายบริษัท หากปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาชุมชนประท้วง ปัญหามวลชนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ “หุ้นดี...ราคาต่ำ”
เป็นบริษัทที่ประสบกับปัญหาขั้นร้ายแรง - ตัวอย่างที่อาจทำให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพง่ายๆ ขึ้นมาหน่อย เช่น การแพ้คดีความครั้งใหญ่ โรงงานระเบิด กระบวนการผลิตที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต สิ่งเหล่านี้มีผลกับราคาหุ้นแทบจะทันที
เป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังจะแย่ - อุตสาหกรรมเหล็ก เป็นอุตสาหกรรมที่หลายคนคิดว่า เป็นอุตสาหกรรมประเภทดวงอาทิตย์ตก นั่นหมายถึงอุตสาหกรรมนี้มีอนาคตที่กำลังจะแย่ลง บริษัทเหล็กของอินเดียที่ชื่อว่า มิตทาลสตีล (Mittal Steel) เป็นบริษัทที่คอยกว้านซื้อบรรดาโรงงานเหล็กทั่วโลกในราคาถูก ทำให้ผลิตสินค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำ จึงสามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
เป็นบริษัทที่มีจุดเด่น - พอจะจำกันได้ไหมครับว่า บริษัทที่ผลิตยาไวอากร้า (Viagra) ยาที่ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชายแข็งตัว และทำยอดขายถล่มทลายไปทั่วโลกจากยาตัวนี้มีชื่อว่าอะไร? ใช่แล้วครับ...บริษัทไฟเซอร์ นั่นเอง ยาไวอากร้าได้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนี้พุ่งกระฉูดสูงขึ้นไปหลายเด้งทีเดียว หลังจากนั้นมา ยาไวอากร้าเพียงตัวเดียวก็ถือเป็น “รายได้ที่ไม่ต้องทำงาน” ก้อนมหึมา...ของบริษัทไฟเซอร์ไปโดยปริยาย
ผู้คนต้องซื้อสินค้าของบริษัทนี้เรื่อยๆ - ลินช์จะชอบลงทุนในบริษัที่ทำใบมีดโกน น้ำอัดลม หรือบุหรี่ มากกว่าบริษัทที่ทำของเล่น เพราะผู้คนต้องซื้อมันเป็นประจำ และมีโอกาสน้อยมากที่จะเปลี่ยนแปลงไปใช้สินค้าอย่างอื่นแทน
เป็นบริษัทที่ชอบใช้เทคโนโลยี - ลินช์จะไม่ชอบลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในการแข่งขันทางด้านราคาที่ไม่สิ้นสุด แต่เขาจะเลือกบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีแทน เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตใช้เครื่องคิดเงินที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น
คนในบริษัทกำลังซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองอยู่ - ไม่มีสัญญาณอะไรที่จะเด่นชัดไปกว่า คนในบริษัทพากันซื้อหุ้นของบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกด้วยตัวมันเองอยู่แล้วว่า บริษัทของตนต้องมีผลประกอบการดีแน่ๆ
บริษัทกำลังซื้อหุ้นคืนอยู่ - การซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองคืน เป็นสิ่งที่บริษัทจดทะเบียนในเมืองไทยก็เริ่มทำกันเป็นจำนวนมากแล้ว การซื้อหุ้นคืนก็เหมือนกับ...การที่คนในบริษัทกำลังซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองอยู่ ซึ่งแสดงถึง บริษัทต้องมีอนาคตที่ดีแน่ และหุ้น...ก็ต้องมีอนาคตที่ดีตามไปด้วย
ตำนานของปีเตอร์ ลินช์ ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหา “หุ้น 10 เด้ง” หรือการทำให้กองทุนของเขาเติบโตขึ้นเป็น 28 เท่าภายในเวลาแค่ 13 ปี ยังเป็นตำนานที่คนรุ่นหลังยังประทับใจอยู่จนถึงปัจจุบัน เพียงแต่...จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถ...ลงทุนได้ยิ่งใหญ่...ในเวลาอันรวดเร็วได้เหมือนกับ..ปีเตอร์ ลินช์
ที่มา ผ่าน รู้ทันหุ้น
Relate topics
- ตัวแปรสำคัญที่สามารถจะอธิบายถึงลักษณะผลตอบแทนของบัฟเฟตต์
- บริษัทดี ๆ ที่มี ROE มากกว่า 25% ในปี 2557
- 3 ตัวช่วย รวยด้วยหุ้นเทคนิค จาก ออมมันนี่
- 4 ความผิดพลาดซ้ำซากในการเทรด
- สรุปหนังสือ “Beating the Street" ของ Peter Lynch โดย รู้ทันหุ้นบ่าย
- ช้อป 20 หุ้นหลบภัย P/E ต่ำ พื้นฐานดีราคามีอัพไซด์ :ยก RML-ANAN-SPALI
- 10 หุ้นปันผลเด่นจ่ายเกิน 5% ติดกัน 5 ปี
- งบ-ผลประกอบการอย่างย่อของทุกบริษัทในไตรมาส 3
- วิธีคำนวณผลตอบแทน - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- ผลจากราคาน้ำมันลดลง
- เจ้ามือกับรายย่อย
- หุ้นที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด 10 อันดับแรกของปี 2009-2014
- เข็มทิศลงทุน
- คำสอนนักลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- หุ้นจ่ายปันผลสูง ปี 57
- หมัดน๊อก 35 หมัดบนสังเวียนชีวิตที่ผมชกมา 29 ปี ของ วอน์เรน บัฟเฟต
- วิถีมหาเศรษฐี
- หุ้นถูก PE และ PBV ต่ำกว่าตลาด เดือนสิงหาคม 2557
- เทคนิคหาหุ้น 10 เด้ง แบบ Rakesh Jhunjhunwala เจ้าของฉายา Warren Buffet แห่ง India
- หุ้นจ่ายปันผลยาว 5 ปี เกิน 5%