เจ้ามือกับรายย่อย
โรงเรียนสอนเล่นหุ้น สอนไว้ดีในเรื่องการมองหาราคาในอนาคต ข้อมูลที่เห็นอยู่ใน set.or.th หรืองบต่าง ๆ นั้นเป็นข้อมูลปัจจุบัน แมงเม่าอยู่กับข้อมูลปัจจุบัน แต่นักลงทุนต้องมีจินตนาการถึงข้อมูลในอนาคต แล้วเข้าซื้อเก็บก่อนที่คนอื่นจะมองเห็น เมื่ออนาคตนั้นมาถึงและถูกต้อง แมงเม่าก็จะตามเข้ามาเก็บ
ลองอ่านรายละเอียดด้านล่างดูนะครับ ดีมาก ๆ
เจ้ามือกับรายย่อย
เมื่อวาน (3/11/57) หลังจากที่ผมลงเรื่อง IEC , EPCO และ EA ไปก็มีคนถามมาว่า
“ผมงงๆ ครับอาจารย์ ดูหุ้นถูก แพง เราใช้ราคาเมื่อเทียบกับ PAR เหรอครับ แล้วทำไมเราไม่ใช้ EPS อ่ะครับ เพราะหุ้นบางตัว ราคาต่ำเมื่อเทียบกับ PAR อาจจะเป็นเพราะจำนวนหุ้นเยอะมาก”
ขอตอบดังนี้
(1) การทำ PAR ของหุ้น IEC , EPCO และ EA ให้เป็น 1 บาทเท่ากัน เพื่อจะบอกให้คนเล่นหุ้นรู้ว่า หุ้นตัวใดราคาเท่าไร และราคาตลาดมีความต่างกันอย่างไร ยังไม่ได้ลงลึก (วิเคราะห์) ไปถึงว่าหุ้นตัวใดถูกหรือแพง แค่อยากให้รู้ว่า อย่าหลงไปกับราคาตลาดที่ดูเหมือนต่ำมากๆ แบบ IEC ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ต่ำ เทียบชั้นกับ EPCO ได้ (มีราคาตลาดใกล้เคียงกัน)
(2) อย่าง IEC กับ EPCO พอรู้ว่า ถ้า PAR 1 บาท มีราคาตลาด 6 บาท และ 6.9 บาท ตามลำดับ ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจแบบหากรู้ว่า EPCO มีข้อมูลที่ดีกว่า ดังนี้
1) มีกำไรสุทธิต่อหุ้น (E) หรือ EPS แล้ว แต่จะเรียก สูงกว่า IEC EPCO ก็น่าซื้อมากกว่า
2) มี P/E ต่ำกว่า และ P/BV ต่ำกว่า IEC EPCO ก็น่าซื้อมากกว่า
3) การที่ EPCO น่าซื้อมากกว่า IEC ตามข้อ 1) เป็นเพราะปันผลของ EPCO น่าจะออกมามากกว่าตาม E ที่โตกว่า ส่วน P/E ที่ต่ำกว่า บอกว่า EPCO คืนเงินลงทุนเร็วกว่า และ P/BV ที่ต่ำกว่าบอกว่า EPCO มีราคาที่ถูกกว่า IEC
แต่การตัดสินใจลงทุนในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ได้ดูที่ E , P/E และ P/BV ในปัจจุบันอย่างเดียว ยังดู E , P/E และ P/BV ในอนาคตด้วย ซึ่งประเด็นการดู E , P/E และ P/BV ในอนาคต ตำราทั่วไปไม่ได้เน้นสอน ทำให้คนเล่นหุ้นไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องจินตนาการ ซึ่งมีประเด็นการพิจารณาที่สำคัญๆ ดังนี้
ก) ถ้า EPCO เหลือโครงการใหม่ที่จะลงทุนน้อยกว่า IEC เพราะเงินลงทุนมีไม่มากพอ E ที่โตกว่าในปัจจุบันก็จะถูก IEC แซงได้ในอนาคต ทำให้ P/E และ P/BV ของ IEC ที่สูงกว่าในวันนี้ลดต่ำลงในอนาคต
หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ราคา IEC ที่มี E ต่ำกว่า P/E และ P/BV สูงกว่า ในปัจจุบันก็สามารถมีราคาที่สูงกว่า EPCO ได้ เพราะเรื่องราคาหุ้นเป็นเรื่องของการที่ราคาหุ้นขึ้นไปรอรับความจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ราคาหุ้นไม่ได้สนใจกับเรื่องปัจจุบันมากนัก)
ด้วยกฎที่ราคาหุ้นต้องขึ้นไปรอรับความจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นกฎหรือเป็นสัจจะที่คนเล่นหุ้นระดับเซียน หรือเจ้ามือระลึกอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ในขณะที่รายย่อย (แมงเม่า) สนใจแต่ E , P/E และ P/BV ในปัจจุบัน รายย่อยจึงตกเป็นเหยื่อของเจ้ามือตลอดเวลา เพราะรายย่อยจะตัดสินใจกับข้อมูลปัจจุบัน แต่เจ้ามือจะตัดสินใจกับข้อมูลในอนาคต เจ้ามือจึงทำการลากราคาหุ้นที่มี E น้อยกว่า , P/E และ P/BV สูงกว่าให้ขึ้นสูง ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาสต่อมายังไม่ออก หรือผลประกอบการปีต่อมายังไม่ออก ซึ่งเจ้ามือรู้ว่าจะออกมาอย่างไร ให้ราคาขึ้นไปลอยเท้งเต้งแบบแพงสุดเวอร์ ครั้นพอผลประกอบการประกาศความจริงออกมา หุ้นที่เคยไม่ดีหรือดีน้อยกว่าก็มี E โตแบบเหลือเชื่อ พาให้ P/E และ P/BV ที่เคยสูงกว่าหุ้นอีกตัวลดต่ำลง เพราะราคาที่ลากขึ้นไปได้ออกค่า P/E และ P/BV ใหม่ที่ลงมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่าหุ้นตัวที่เคยมีสถิติดีกว่า
งานนี้ราคาที่แพงเวอร์ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะถ่ายโอนให้กับรายย่อย ผู้ใช้ E ปัจจุบัน P/E และ P/BV ปัจจุบันมาวิเคราะห์ เพราะสถิติปัจจุบันได้บอกแล้วว่า หุ้นตัวที่มี E ต่ำกว่า , P/E และ P/BV สูงกว่าในอดีต มาวันนี้เป็นหุ้นที่น่าลงทุนมากกว่า เพราะถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าแล้วในวันนี้ แต่สถิติ E ก็โตกว่า , P/E และ P/BV ก็ใกล้เคียงหรือต่ำกว่า
ข) คนที่ซื้อเก็บไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผลประกอบการยังไม่ประกาศออกมา จนราคาแพงสุดเวอร์ ตามข้อ ก) คือเจ้ามือ ใช้ E , P/E และ P/BV ในอนาคตมาลากราคาหุ้น
ค) คนที่ซื้อต่อจากเจ้ามือในวันที่ผลประกอบการประกาศออกมามี E โตขึ้น และราคาที่แพงสุดเวอร์ในข้อ ข) ออกสถิติ P/E และ P/BV ใหม่ที่ลดต่ำลงมา {ทบทวนรายละเอียดข้อ ก)} คือรายย่อย (แม่งเม่า) เพราะรายย่อยตัดสินใจซื้อหุ้นโดยดู E , P/E และ P/BV ในปัจจุบัน
ง) เมื่อเจ้ามือขายหุ้นที่ซื้อเก็บตามข้อ ข) ให้กับรายย่อย (แม่งเม่า) จนเกลี้ยงแล้ว ได้กำไรเป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์ ราคาหุ้นก็ไม่ไปไหน ทั้งๆ ที่สถิติ E , P/E และ P/BV ดูดีมาก
จ) จากข้อ ง) รายย่อยได้รับการแจกหุ้น และได้รับมอบภารกิจอีกข้อหนึ่ง คือ เป็นคนพยุงราคาหุ้น เพราะรายย่อยเกือบ 100% ถือคติประจำใจว่า “ไม่ขายไม่ขาดทุน”
ผมตอบคำถามนี้ละเอียดมาก ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ กะว่าจะลงในคอลัมน์ถามมาตอบไป แต่ด้วยเนื้อหาที่เป็นหัวใจสำคัญของการเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จ จึงขอเอาลงคอลัมน์ชั่วโมงเรียนหุ้น
อ่านรอบแรกแล้วไม่เข้าใจ อ่านใหม่อีกที และอีกที และอีกที ปัญหาของนักเรียนส่วนใหญ่ คือ มีอาการเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ อยากให้เอาจริงเอาจัง เอากันถึงขั้นยอมตายไปเลย หากชาตินี้เล่นหุ้นไม่เก่ง
หมายเหตุ เรื่อง IEC , EPCO และ EA ตอนที่ 2 จะลงคอลัมน์ชั่วโมงเรียนหุ้นวันศุกร์ที่ 7/11/57
ที่มา โรงเรียนสอนหุ้น
Relate topics
- ตัวแปรสำคัญที่สามารถจะอธิบายถึงลักษณะผลตอบแทนของบัฟเฟตต์
- บริษัทดี ๆ ที่มี ROE มากกว่า 25% ในปี 2557
- 3 ตัวช่วย รวยด้วยหุ้นเทคนิค จาก ออมมันนี่
- 4 ความผิดพลาดซ้ำซากในการเทรด
- สรุปหนังสือ “Beating the Street" ของ Peter Lynch โดย รู้ทันหุ้นบ่าย
- ช้อป 20 หุ้นหลบภัย P/E ต่ำ พื้นฐานดีราคามีอัพไซด์ :ยก RML-ANAN-SPALI
- 10 หุ้นปันผลเด่นจ่ายเกิน 5% ติดกัน 5 ปี
- งบ-ผลประกอบการอย่างย่อของทุกบริษัทในไตรมาส 3
- วิธีคำนวณผลตอบแทน - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- ผลจากราคาน้ำมันลดลง
- หุ้นที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด 10 อันดับแรกของปี 2009-2014
- เข็มทิศลงทุน
- คำสอนนักลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- หุ้นจ่ายปันผลสูง ปี 57
- หมัดน๊อก 35 หมัดบนสังเวียนชีวิตที่ผมชกมา 29 ปี ของ วอน์เรน บัฟเฟต
- วิถีมหาเศรษฐี
- หุ้นถูก PE และ PBV ต่ำกว่าตลาด เดือนสิงหาคม 2557
- "หุ้น 10 เด้ง" ของ...ปีเตอร์ ลินช์
- เทคนิคหาหุ้น 10 เด้ง แบบ Rakesh Jhunjhunwala เจ้าของฉายา Warren Buffet แห่ง India
- หุ้นจ่ายปันผลยาว 5 ปี เกิน 5%