ASP Strategic Move ปรับหมากกลยุทธ์ 5 มีนาคม 2557
ASP Strategic Move ปรับหมากกลยุทธ์ 5 มีนาคม 2557
หลังจากที่มีการรายงานงบปี 2556 เสร็จสิ้นผลปรากฏว่าในปี 2556 ตลาดหุ้นไทยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 777,293 ล้านบาท (กำไรสุทธิของต่อหุ้น หรือ EPS อยู่ที่ 90.05 บาท) เพิ่มขึ้นเพียง 5.8%yoy ต่ำกว่าที่คาดหมายเล็กน้อย เนื่องจากปี 2556 ทาง ASP ได้มีการปรับลดประมาณการกำไรตลาดไปแล้วถึง 3 ครั้ง (ไม่รวมที่ได้มีการปรับลดกำไร หุ้นที่อิงการเติบโตในประเทศ (Domestic Play) ในช่วงม.ค. ปี 2557 ที่ผ่านมา) โดยพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไร เติบโตมากกว่าตลาด นำโดยกลุ่มประกันภัย เพิ่มขึ้น 210%ตามมาด้วย ท่องเที่ยว/โรงแรม 174% อาหาร 89% วัสดุก่อสร้าง 40% อสังหาฯ 36%, เกษตร 23%, ธนาคารพาณิชย์ 24% สื่อสาร 16% และ ชิ้นส่วน 10% ตรงกันข้าม กลุ่มที่มีเติบโตน้อยกว่าตลาด ซึ่งส่วนใหญ่กำไรมีการหดตัวจากปี 2555 คือ ขนส่ง ลดลง 51% และการแพทย์ ลดลง 13% พลังงาน ลดลง 9% รถยนต์ ลดลง 8% และ ปิโตเคมี ลด 7%และ บันเทิง เพิ่มขึ้น 1% โดยรวมส่งผลให้ เติบโต 5.78% จากปี 2555
ส่วนแนวโน้มในปี 2557 ASP ประเมินว่าฐานกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดจะอยู่ที่ราว 888,904 ล้านบาท (หรือคิดเป็น EPS ราว 102.28 บาท) เติบโตราว 13.59% โดยกลุ่มที่คาดว่าน่าจะกลับมาเติบโตได้โดดเด่นมากที่สุด ซึ่งคาดว่า EPS Growth เรียงลำดับจากมากไปน้อยคือ EPS Growth มากกว่า 30% ได้แก่ ประกันภัย +38% (เรียงลำดับจากเติบโตมากสุดคือ BLA, BKI ตามลำดับ) ตามาด้วยกลุ่ม อาหาร + 31% (เรียงลำดับจากเติบโตมากสุดคือ TUF, CPF, OISHI, KSL ตามลำดับ) EPS Growth 23% คือ เกษตร (STA, GFPT) สื่อสาร (THCOM, JAS, DTAC) และ ค้าปลีก ( CSS, BEAUTY, CPALL) EPS Growth 18% คือ ปิโตรเคมี (IVL) และ พลังงาน (IRPC,CKP,LANNA) ตรงกันข้ามกลุ่มที่มี EPS ใกล้เคียงและน้อยกว่าตลาดจะอยู่ในกลุ่ม บันเทิง เพิ่มขึ้น 16% (RS, VGI, WORK) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +11% (SPPT, CCET, DELTA) แต่กลุ่มนี้ในปี 2556 มีรายการพิเศษ คือ เงินประกันภัยชดเชยจากน้ำท่วมในปี 2554 หากตัดรายการนี้ออกจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เติบโตราว 30% (SVI, HANA 30%, DELTA 15%, KCE 13%) ตามมาด้วย วัสดุก่อสร้าง เติบโต 10%(TPIPL, DRT, SCCC) ธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 7% (TMB, BAY, BBL) อสังหาริมทรัพย์ 7% (SC, SIRI, SF, SPALI) และ การแพทย์ +4% (BHC, CHG) เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มน้ำหนักการลทุนเป็น 40% จากเดิม 30% กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนจากเดิม 30% เป็น 40% (กลับมาที่เดิม หลังจากที่มีการปรับลดลงจาก 40% เหลือ 30% ในปลายปี 2556) เนื่องจากแรงกดดันทางการเมืองมีแนวโน้มลดลง แม้ว่าปัญหาจะยังคั่งค้างอยู่ก็ตาม แต่เชื่อว่าได้สะท้อนในราคาหุ้นไประดับหนึ่ง โดยหากพิจารณา ณ EPS ตลาดที่หุ้น 102.28 บาทต่อหุ้นหรือ Expected P/E 13.2 เท่า ซึ่งถือว่ายังเป็นระดับที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม TIP คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ราว 14.3 เท่า 17.7 เท่า และ 16.1 เท่า ตามลำดับ แต่อาจจะสูงกว่าจีน และ ฮ่องกง ที่มี Expected P/E ต่ำเพียง 8.1 เท่า และ 10.2 เท่า ตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทย แนะนำให้ผสม ระหว่างหุ้น Domestic + Global Plays โดยมีหุ้นเด่นดังนี้
Domestic Play
EPS Growth สูง Expected P/E ต่ำ และ เงินปันผลสูง : SPALI, INTUCH EPS Growth สูง แต่ Expected P/E สูง : TVO, STPI, STEC, DTAC P/E ต่ำ แต่เงินปันผลสูง : SITHAI
Global Plays
Expected P/E ต่ำ และ เงินปันผลสูง : DELTA, HANA, PTT EPS Growth สูง แต่ Expected P/E ต่ำ KSL และ STA
ประกิต สิริวัฒนเกตุ Prakit Siriwattanaket Strategist and Technical Analyst
Relate topics
- ตัวแปรสำคัญที่สามารถจะอธิบายถึงลักษณะผลตอบแทนของบัฟเฟตต์
- บริษัทดี ๆ ที่มี ROE มากกว่า 25% ในปี 2557
- 3 ตัวช่วย รวยด้วยหุ้นเทคนิค จาก ออมมันนี่
- 4 ความผิดพลาดซ้ำซากในการเทรด
- สรุปหนังสือ “Beating the Street" ของ Peter Lynch โดย รู้ทันหุ้นบ่าย
- ช้อป 20 หุ้นหลบภัย P/E ต่ำ พื้นฐานดีราคามีอัพไซด์ :ยก RML-ANAN-SPALI
- 10 หุ้นปันผลเด่นจ่ายเกิน 5% ติดกัน 5 ปี
- งบ-ผลประกอบการอย่างย่อของทุกบริษัทในไตรมาส 3
- วิธีคำนวณผลตอบแทน - ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- ผลจากราคาน้ำมันลดลง
- เจ้ามือกับรายย่อย
- หุ้นที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด 10 อันดับแรกของปี 2009-2014
- เข็มทิศลงทุน
- คำสอนนักลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- หุ้นจ่ายปันผลสูง ปี 57
- หมัดน๊อก 35 หมัดบนสังเวียนชีวิตที่ผมชกมา 29 ปี ของ วอน์เรน บัฟเฟต
- วิถีมหาเศรษฐี
- หุ้นถูก PE และ PBV ต่ำกว่าตลาด เดือนสิงหาคม 2557
- "หุ้น 10 เด้ง" ของ...ปีเตอร์ ลินช์
- เทคนิคหาหุ้น 10 เด้ง แบบ Rakesh Jhunjhunwala เจ้าของฉายา Warren Buffet แห่ง India